ความเสี่ยงของ ออรัลเซ็กซ์
image photo talk
น.พ.สมบัติ แทนประเสริฐสุข เตือนกลุ่มคนนิยม ?ออรัลเซ็กส์? ใช้ปากกับอวัยวะเพศชายหรือหญิง หรือที่ทวารหนัก มีโอกาสติดเชื้อเอดส์ เชื้อเริม หนองใน ซิฟิลิสได้ หากในปากหรือในลำคอมีแผล ขณะที่อีกฝ่ายมีเชื้อ ต้องป้องกันโดยใส่ถุงยางอนามัย

โดย น.พ.สมบัติ กล่าวว่า ในปัจจุบันรสนิยมทางเพศสัมพันธ์มีความหลากหลายมากขึ้นในเรื่องของเพศปฏิบัติ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมาจากการได้รับอิทธิพลจากสื่อลามกต่างๆ และเกิดพฤติกรรมเลียนแบบขึ้น โดยเฉพาะการทำรักด้วยปาก หรือ ?ออรัลเซ็กซ์? ซึ่งมีโอกาสติดโรคเอดส์ โรคเริม โรคซิฟิลิส และหนองในได้เช่นกัน

หากฝ่ายกระทำมีแผลที่ปากหรือในคอ และมีการหลั่งน้ำอสุจิในปาก หรือผู้ถูกกระทำมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อยู่แล้วก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นสูงต่อการติดเชื้อเอดส์ได้เช่นกัน โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายได้ทาง เยื่อบุบริเวณที่ปลายท่อปัสสาวะชาย ช่องคลอด ทวารหนักและบาดแผล

?พฤติกรรมการทำออรัลเซ็กส์ซ์ในกลุ่มคนไทย ยังไม่ได้มีการสำรวจอย่างแน่ชัด แต่จากข้อมูลผู้มารับบริการที่คลินิกชายของโรงพยาบาลบางรัก ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน 2549 จำนวน 1,305 คน พบว่ามีประวัติทำออรัลเซ็กซ์ 130 ราย หรือประมาณร้อยละ 10?

น.พ.สมบัติ กล่าวแนะว่า วิธีที่ปลอดภัยที่สุดของการมีเพศสัมพันธ์ ต้องมีเครื่องป้องกันที่เหมาะสม ในกรณีที่ทำออรัลเซ็กซ์แบบใช้ปากกับอวัยวะเพศชายนั้น ฝ่ายชายต้องสวมถุงยางอนามัย ส่วนในกรณีที่ใช้ปากสัมผัสกับอวัยวะเพศหญิง หรือบริเวณทวารหนัก แนะนำให้ใช้แผ่นยาง หรือแผ่นพลาสติกชนิดที่ใช้ห่ออาหารก็ได้เพื่อป้องกันไม่ให้ปากสัมผัสกับอวัยวะโดยตรง

นอกจากนี้ ในคู่สามีภรรยา หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีอาการไข้ ควรจะงดการมีเพศสัมพันธ์ เพราะเชื้อโรคที่ทำให้เกิดไข้หวัด จะฝังตัวอยู่ในเมือกตามผนังเยื่อบุทั้งหลายทั้งในจมูก ช่องปาก และช่องคลอด การทำรักด้วยปากระหว่างที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเจ็บไข้ ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้


ออรัลเซ็กซ์กับมะเร็งในลำคอ

นักวิทยาศาสตร์เตือน ผู้ที่ทำออรัลเซ็กซ์ (การทำให้เกิดความพึงพอใจทางเพศโดยใช้ปาก) กับคู่นอนมากกว่า 5 คนขึ้นไปมีโอกาสเป็นมะเร็งในลำคอทั้งชายและหญิง เหตุจากออรัลเซ็กซ์แพร่กระจายเชื้อไวรัสที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เรียกว่า Human Papilloma Virus (HPV)

ผลการศึกษาเรื่องนี้เป็นของ ของ ดร.มอร่า กิลลิสัน (Dr. Maura Gillison) และทีมงานนักวิจัยจาก Johns Hopkins Bloomberg School of Public Health ในบัลติมอร์ (Baltimore) รัฐแมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ชื่อ New England Journal of Medicine (วันที่10 พฤษภาคม) ซึ่งเป็นวารสารฉบับเดียวกับที่ได้ตีพิมพ์เรื่อง เชื้อ HPV และวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกไปหมาดๆ

นักวิจัยพบว่า เชื้อHPV ทำปฏิกิริยาในระดับโมเลกุลบางอย่างที่ก่อให้เกิดมะเร็งในลำคอ เรียกว่า Oropharyngeal Squamous-cell Carcinoma แต่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดชี้แจงกระบวนการเกิดปฏิกิริยาดังกล่าว

ทีมงานได้ศึกษากับผู้ป่วยมะเร็งในช่องปาก (Oropharyngeal Cancer) หรือมะเร็งที่ต่อมทอนซิล (Cancers of the tonsils) ในระยะเริ่มต้นจำนวน 100 คน และผู้ที่ไม่ได้เป็นมะเร็งอีก 200 คน โดยการตรวจตัวอย่างเลือดและน้ำลายกับโมเลกุลของแอนติบอดี และศึกษาสภาพความเป็นอยู่ในด้านต่างๆ เช่น พฤติกรรมทางเพศ การดื่มสุรา การสูบบุหรี่ โดยใช้แบบสอบถามลับ ได้รับผลดังนี้คือ

? ผู้ที่มีคู่นอน (ที่ทำออรัลเซ็กซ์)จำนวนตั้งแต่ 6 คนขึ้นไปในชั่วอายุขัย (Lifetime) มีโอกาสเป็นมะเร็งในช่องปากถึง 3.4 เท่า

? ผู้ที่มีคู่นอน (ที่ร่วมเพศกันทางช่องทางปกติ) จำนวนตั้งแต่ 26 คนขึ้นไปในชั่วอายุขัย มีโอกาสเป็นมะเร็งในช่องปาก 3.1 เท่า

? จำนวนคู่นอนที่มากขึ้นเพิ่มโอกาสในการเกิดมะเร็งมากขึ้นเช่นกัน


มะเร็งในช่องปากเกิดจากการติดเชื้อ HPV-16ในช่องปากด้วยระดับ 32 เท่าอย่างมีนัยสำคัญ นั่นคือ ถ้าได้ติดเชื้อHPV-16ในช่องปากแล้วโอกาสที่จะพัฒนาเป็นมะเร็งก็สูงเป็น 32 เท่า โดยการสูบบุหรี่และดื่มสุราไม่ได้เป็นปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงในกรณีนี้ เนื่องจากเมื่อเซลล์ในปากติดเชื้อ HPV แล้วเชื้อก็จะพัฒนาไปเป็นก้อนมะเร็งโดยไม่ต้องใช้บุหรี่และสุรามาเป็นแนวร่วม (โดยปกติแล้ว บุหรี่และสุราคือตัวการที่ทำให้เกิดมะเร็งในช่องปาก)


ผลการศึกษาน่าจะชี้นำให้ทุกคนหันมาระมัดระวังตัวกันมากขึ้นเมื่อจะทำออรัลเซ็กซ์ โดยการใช้ถุงยางอนามัย และใส่ใจเรื่องความไม่สำส่อนด้วย
update : 13/05/2552 author : Anna
*** กรุณา Login ก่อนจึงจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้นะจ๊ะ ***