|
|
|
กลิ่นน้ำหอมจางๆลอยมาสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนของเจ้าของกลิ่นกาย แล้วริมฝีปากอันเรียวบาง ก็ประทับลงหน้าผากอย่างนุ่มนวล แล้วค่อยๆเลื่อนลงมาสัมผัสจมูกอันเรียวเล็กด้วยความอ่อนโยน จนกระทั่งริมฝีปากทั้งสองประกบกัน .....อ๊า.....
เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหูเบาๆ ''ต้นข้าวรักใบหม่อนนะ''
ใบหม่อนลืมตา มองหาเจ้าของเสียงที่เธอคุ้นเคย เสียงเรียก
''ต้นข้าว ต้นข้าว ต้นข้าวกลับมาหาใบหม่อนแล้วใช่มั๊ย ต้นข้าว ต้นข้าว ต้นข้าวอยู่ไหน''
สิ้นเสียงเรียกของใบหม่อน ความเงียบสงัด ความรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เข้ามาแทนที่ความดีใจที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่มี ไม่มี ไม่มีเค้าอีกแล้ว คนรักของเธอ ใบหม่อนได้แต่ร่ำไห้ คร่ำครวญ เสียใจกับเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมาถึง 5 ปีแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังไม่เคยลืม คนรักของเธอได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว
''ผู้จัดการคะ วันนี้มีนัดกับลูกค้าอิตาลี่ตอน2 ทุ่ม คุณใบหม่อนจะให้คอนเฟิร์มร้านอาหารที่จองไว้เลยมั๊ยคะ''
เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับ ชลณี เลขาฯหน้าหวานคนสนิทของใบหม่อน เงยหน้าจากตารางนัดหมายของผู้เป็นนาย จ้องมองใบหน้าเหม่อลอยของเจ้านาย อย่างสงสัย
''ผู้จัดการคะ ผู้จัดการคะ ผู้จัดการค๊ะ''
ใบหม่อนสะดุ้งตกใจ จนทำให้ปากกาสีน้ำเงิน สลักอักษรย่อ .......ด้ามโปรดที่ถืออยู่ ตกลงไปบนพรมขนแกะสั่งนำเข้าจากฝรั่งเศส ใบหม่อนรีบก้มเก็บปากกาอย่างร้อนใจ และสำรวจปากกาอย่างละเอียด
''เอ่อ ผู้จัดการคะ'' ใบหม่อนสะดุ้งอีก
''อืม ว่าไงจ๊ะชล มีอะไรจ๊ะ'' ใบหม่อนพยายามทำตัวให้เป็นปกติ
''2ทุ่ม มีนัดทานข้าวกับลูกค้าอิตาลี่ คุณใบหม่อนจะให้คอนเฟิร์มร้านอาหารอิตาลี่ที่จองไว้มั๊ยคะ'' ชลณี จ้องหน้ารอคำตอบจากเจ้านาย
''อืม พี่ว่าเปลี่ยนไปเป็นร้านอาหารไทยดีกว่านะ พี่ว่าลูกค้าคงเบื่ออาหารบ้านเค้าแล้วล่ะ อีกอย่างจะได้โปรโมทอาหารไทยไปในตัวด้วย เอาร้านที่มีดนตรีสดด้วยก็ดีจ๊ะ ยังไงพี่ฝากชลด้วยแล้วกันนะจ๊ะ แล้วโทรบอกลูกค้าด้วยนะ''
''ได้ค่ะ ผู้จัดการ ชลมีเพื่อนเปิดร้านอาหารไทยอยู่ตรงสุขุมวิทนี่เองค่ะ ร้านใหญ่ อาหารอร่อย บรรยากาศแบบไทยๆ ด้วยนะคะ มีโฟร์คซองฟังสบายๆด้วยค่ะ แต่ว่าแยกกันคนละส่วนค่ะ เอ่อ แต่ไม่ทราบว่าผู้จัดการจะชอบหรือเปล่า'' ชลณีก้มหน้า รอรับคำตอบอย่างหวาดๆ
''อ๋อ แยกเป็นส่วนสวนอาหารกับผับใช่มั๊ย อืม .... ไม่เป็นไรจ๊ะ ไว้ทานข้าวเสร็จ ถ้าอยากฟังเพลงค่อยย้ายโต๊ะแล้วกันเน๊อะ เพราะลูกค้าฟังเพลงเราคงไม่สนุกเท่าไหร่ จะได้อุดหนุนเพื่อนชลด้วย ไงพี่ฝากด้วยแล้วกันนะจ๊ะ''
ใบหม่อนยิ้ม ปนหัวเราะ ให้ด้วยความเอ็นดู
ชลณีผงกหัวรับคำสั่ง แล้วเดินออกไป พอสิ้นเสียงประตู ใบหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อครู่นี้ กลับมีน้ำใสๆไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง ใบหม่อนคิดถึงความฝันเมื่อเช้าที่เธอได้เห็นคนรักของเธอกลับมา เธอได้แต่ลูบคลำอักษรสลักคำว่า ''ท้องฟ้า''ที่อยู่บนด้ามปากกา แล้วมองมันด้วยความ คิดถึงสุดหัวใจ
.......ณ ร้านอาหารไทย ....
ชลณีนั่งกระสับกระส่าย และง่วนอยู่กับการโทรศัพท์ ใบหม่อนสังเกตเห็นแอบยิ้ม
''ผู้จัดการคะ ทานก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวชลสั่งใหม่ให้ลูกค้าได้ค่ะ''
''ไม่ต้องเร่งลูกค้าหรอก พี่รอได้ อีกอย่างไม่ต้องเรียกพี่ว่าผู้จัดการก็ได้ อยู่กับพี่มาตั้งกี่ปีแล้ว เรียกพี่ใบหม่อนเฉยๆก็ได้จ๊ะ พี่บอกหลายทีแล้วนะ นี่ถ้าเรียกผู้จัดการอีกที พี่หักเงินเดือนน๊า รู้ป่าว''
พร้อมกับยิ้มให้ ชลณียิ้มรับอย่างเกรงๆ
''แต่ชลยังไม่ชินนี่คะ'' พร้อมกับเหลือบมองด้วยความเกรงใจ ใบหม่อนหัวเราะเบาๆด้วยความพอใจ
ชลณียังอดสงสัยไม่ได้ว่า เหตุใด ผู้หญิงคนนี้ถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ เจ้านายขี้ใจร้อน เอาแต่ใจและเย่อหยิ่ง เนี๊ยบ ระเบียบจัด หายไปไหน ถึงตอนนี้ชลณีก็ยังคงไม่คุ้นเคยกับเจ้านายคนใหม่ในร่างเดิมอยู่ดี แต่ก็ช่างมันเถอะ เพราะถึงยังไงพี่ใบหม่อนคนนี้ก็น่ารักกว่าผู้จัดการจอมเนี๊ยบเมื่อก่อนหลายเท่า ก็ดีแล้วล่ะ ชลณีได้แต่คิดในใจ
บทสนทนา ระหว่างใบหม่อนกับลูกค้า เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ลูกค้าชมใบหม่อนว่าเป็นผู้หญิงเก่งอย่างไม่ขาดปาก ใบหม่อนยิ้มรับ แต่ข้างในใจกลับไม่ได้รู้สึกดีใจกับคำพูดเหล่านั้นเลยขณะที่บทสนทนากำลังออกรสนั้น ประตูกั้นระหว่างสวนอาหารกับผับ เปิดออก ทำให้ได้ยินเสียงร้องทุ้ม ก้องกังวานปนออกมาพร้อมเสียงกีต้าร์โปร่งอันไพเราะ รอดออกมาจากทางประตูนั้น
''บทเพลงที่เก็บเอาดาวทุกดวง เขียนเป็นท้วงทำนองขับขาน ทักทอและเรียงร้อยคำจากหัวใจ บทเพลงที่เป็นดั่งคำสัญญาว่าจะอยู่ข้างเธอตลอดไป ให้เพลงผูกพันสองใจนานเท่านาน ชั่วนิรันดร์'' แล้วประตูก็ปิดไป
เสียงนั้น เหมือนเป็นมนต์สะกดให้ใบหม่อนหยุดนิ่งชั่วขณะ แล้วพรวดพราดลุกจากโต๊ะ เดินตรงปรี่ไปยังประตูบานนั้น ลูกค้าอิตาลี่ และชลณีตกใจกับการกระทำของใบหม่อน ชลณีร้องเรียกเจ้านาย แต่ราวกับว่าใบหม่อนไม่ได้ยินเสียงเรียกนั้นเลย
ใบหม่อนหยุดยืนที่ประตูแล้วค่อยๆเอื้อมมือเรียวเล็กที่สั่นระริกเปิดประตูเข้าไป หัวใจเต้นแรงราวกับจะทะลุออกมาข้างนอก ในใจได้แต่ภาวนาให้เป็นเค้าคนนั้น ขณะเดียวกันที่เจ้าของเสียงร้องนั้นเงยหน้าจากโน๊ตเพลงที่วางอยู่ตรงหน้า มองมาที่ใบหม่อน แต่แล้วใบหม่อนก็ต้องผิดหวัง เมื่อคนที่ร้องเพลงนั้นไม่ใช่ต้นข้าว บุคคลอันเป็นที่รักของเธอ น้ำใสๆไหลอาบแก้มใบหม่อนอย่างช้าๆ ชลณีตามเข้ามา รู้สึกตกใจที่เห็นน้ำตาของเจ้านาย
''พี่หม่อนคะ พี่หม่อนคะ พี่หม่อนคะ'' ชลณีเรียกใบหม่อนพร้อมกับเขย่าตัวเธอ
ใบหม่อน รู้สึกตัว โผกอดชลณีแล้วร้องไห้ปานใจจะขาด ทิ้งให้ชลณีงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ภาพประกอบ : fonnyday
|
|
|
|
update : 29/01/2552
|
author : เจ้าชายไข่เจียว
|
|
|
|
|